วันพุธที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2556

อาหารเพื่อสุขภาพ

เคล็ดลับการทานอาหารเพื่อสุขภาพ


แนวโน้มของการบริโภคในปัจจุบันกำลังวิ่งตามกระแสสังคมสมัยใหม่ที่อาศัยความสะดวกรวดเร็วเป็นหลัก ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของคุณประโยชน์เท่าใดนัก ทั้งกินมากเกินไป กินน้อยเกินไป และกินอาหารที่ไม่มีคุณค่า ในที่สุดก็เกิดปัญหาสุขภาพตามมา


การกินอาหารจึงมิใช่การกินเพื่อให้อิ่มหรือเพื่อสนองความอยากเท่านั้น แต่จำเป็นที่ต้องกินเพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่เป็นโรค และมีจิตใจแจ่มใส อย่างที่เรียกกันว่า "อาหารเพื่อสุขภาพ"

1. อย่าละเลยอาหารเช้า ถือเป็นมื้อที่จะละเลยไม่ได้ เพราะช่วงเวลาจากอาหารเย็น (เมื่อวาน) ถึงเช้านี้ค่อนข้างจะไกล แม้จะเป็นช่วงที่ร่างกายได้หลับนอนพักผ่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าระบบต่าง ๆ ของร่างกายจะหยุดทำงานตามไปด้วย เพราะฉะนั้น อาหารเช้าจึงจำเป็นอย่างยิ่ง และควรเป็นมื้อที่มีคุณค่าครบ 5 หมู่ อาหารเช้ายังช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยให้การเผาผลาญพลังงานดีขึ้นอีกด้วย

2. ปรุงอาหารให้แตกต่างหลากหลาย แม้ข้าวเป็นอาหารหลัก แต่ถ้าสามารถเลือกทานข้าวซ้อมมือได้จะยิ่งดี เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน และใยอาหาร แต่ละมื้อควรปรุงอาหารให้แตกต่างกันบ้าง เพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยถูกปาก และร่างกายยังจะได้รับคุณค่าทางอาหารเพิ่มขึ้นด้วย หรือเพียงเปลี่ยนเครื่องปรุงประเภทน้ำมันพืช ก็จะช่วยให้ได้สารอาหารอีกหลายชนิดคือ วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร และยังให้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรที่ช่วยรักษาสุขภาพ

3. การดื่มน้ำให้มาก นับเป็นผลดีต่อร่างกาย ในแต่ละวันจึงควรดื่มน้ำให้ได้ประมาณวันละ 8 แก้ว เพื่อให้มีน้ำมากพอที่จะหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น

4. เสริมแคลเซียมให้ร่างกาย ด้วยอาหารที่ปรุงจากปลาตัวเล็ก เต้าหู้ หรือผักใบเขียว อาหารประเภทนี้ให้คุณค่าแคลเซียมสูง ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก

5. งดขนมขบเคี้ยวที่ไร้สารอาหาร แต่เต็มไปด้วยไขมันและน้ำตาล ซึ่งจะไปทำลายสุขภาพ ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจุกจิกจากขนม หรือลูกอมมาเป็นผลไม้ จะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายได้อย่างดี เพราะมีวิตามินและไฟเบอร์ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย

6. ทานข้าวกล้องและธัญพืชเพื่อสร้างพลังแก่ร่างกาย ข้าวกล้องได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมของวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน และใยอาหาร หรือจะเป็นธัญพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่าง ลูกเดือย ข้าวกล้อง ฯลฯ จะช่วยลดคลอเลสเตอรอลและควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล

7. เพิ่มผักและผลไม้ในแต่ละมื้อ เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีน และใยอาหารแล้ว ยังมีสารช่วยชอลอการเสื่อมของเซลล์ ทำให้มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส อ่อนกว่าวัย และยังมีคุณค่าด้านสมุนไพรรักษาสุขภาพ

8. เลือกปลาตัวเล็กและเนื้อไม่ติดมันมาปรุงอาหาร เพื่อจะได้กินอาหารที่ให้โปรตีนสูง ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และยังช่วยบำรุงเซลล์สมอง ที่สำคัญยังมีไขมันน้อยอีกด้วย

9. ระวังสารปนเปื้อนในอาหาร สารปนเปื้อนต่าง ๆ ทำให้เราไม่ปลอดภัยจากเชื้อโรคพยาธิ สารพิษและสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ดังนั้นจึงควรเลือกกินอาหารที่สะอาด การผลิตถูกต้อง และยังไม่หมดอายุ

ทั้ง 9 ข้อที่แนะนำเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น ยังคงต้องอาศัยความยืดหยุ่นต่าง ๆ ของแต่ละบุคคล แต่ก็อย่าลืมว่าสุขภาพของเราเองสำคัญที่สุด การกินที่ถูกต้องจะช่วยให้เราปลอดภัยจากโรคภัย ไข้เจ็บ และมีสุขภาพที่ดี

credit จาก: ku.ac.th/e-magazine/december47/know/eat9

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นิทานกบกับหนู

กบกับหนู
หนูเเก่ตัวหนึ่งเดินทางเเรมรอนมาจนถึงลำธารที่ชายป่า หนูต้องการจะข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามจึงเข้าไปหาเจ้ากบ ตัวน้อยที่ริมลำธาร เเล้วเอ่ยขอให้กบช่วยพาข้าม ลำธาร เเล้วเอ่ยขอให้กบช่วยพาข้ามลำธารด้วย

กบน้อยมองหนูเเล้วปฏิเสธอย่างสุภาพว่า
" โธ่ ฉันน่ะตัวเล็กพอๆ กับท่าน เเล้วจะพาท่านข้ามไปได้ อย่างไรกันล่ะจ๊ะ "
เเต่หนูไม่ยอม กลับอ้างว่าตนเป็นสัตว์ผู้อาวุโสกว่า ถ้ากบ ไม่ช่วยตนก็จะไปป่าวประกาศให้สรรพสัตว์ทั้งหลายรู้ถึง ความใจดำของกบ

เมื่อถูกขู่เข็ญเช่นนั้น กบจึงต้องจำยอมให้หนูเอาเท้าผูก กับเท้าของตนเเล้วก็พาว่ายข้ามลำธาร เเต่ทว่าพอว่ายไปได้เเค่ครึ่งทางเท่านั้นกบก็เริ่มหมดเเรง
ก่อนที่ทั้งคู่จะจมน้ำตาย เหยี่ยวตัวหนึ่งก็โฉบลงมาจิกเอา ทั้งกบเเละหนูไปกิน

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นิทานพื้นบ้าน


นิทานพื้นบ้าน – พื้นเมืองเวียงจันทร์

by
อดีตกาลนานมา   เวียงจันทน์กับไทยเป็นศัตรูกัน   ไทยยกทัพไปตีเวียงจันทน์หลายครั้ง
แต่ก็ไม่ชนะสักทีทั้งที่มีกำลังมากกว่า   เพราะเวียงจันทน์มีพระยานาคมาช่วยเหลือ   คือเมื่อเจ้าเมืองตีกลองขึ้น
พระยานาคก็จะโผล่ขึ้นมาจากน้ำพ่นพิษใส่ทหารไทยตายหมด
กษัตริย์ไทยทราบเรื่องจึงวางแผนให้เชียงเมี่ยง   ที่เป็นคนฉลาดหลักแหลม
ปลอมเป็นหมอมอ(หมอโหร)   เข้าไปในเวียงจันทน์   เมื่อได้โอกาสเข้าพบเจ้าอนุ
เจ้าเมืองเวียงจันทน์   หมอมอทำนายว่าเจ้าอนุวงศ์จะได้รับมรดกที่เป็นเงินฝังไว้ที่ครกมอง
เมื่อเจ้าอนุให้คนไปขุดดูก็ได้พบจริงๆ   จึงทำให้เกิดความศรัทธาเชื่อถือในหมอมอคนนี้มาก
ส่วนสาเหตุที่พบนั้น   เนื่องจากเชียงเมี่ยงให้คนเอาไปฝังไว้ก่อนแล้ว
ต่อมาเชียงเมี่ยงให้คนทำว่าวติดธนู   แล้วปล่อยขึ้นสูงมากจนมองไม่เห็น   ได้ยินแต่เสียงธนู
เจ้าอนุแปลกใจมากหาสาเหตุไม่ได้จึงให้เรียกหมอมอมาทำนายดู   หมอมอปลอม(เชียงเมี่ยง)
ก็ทำนายว่าจะมีเรื่องเดือดร้อนแก่บ้านเมือง   เพราะเสียงนั้นคือภูตผีปีศาจที่ร้องโหยหวนจะลงมากินผู้คน
พระราชา อนุ ถามว่าจะมีวิธีแก้อย่างไร   หมอมอปลอมบอกว่าจะต้องไปตัดลิ้นกลองใบนั้น
และให้อุดรูพระยานาคเสีย   เสียงนั้นก็จะหายไปและภูติผีปีศาจจะไม่ลงมากินผู้คน
เจ้าอนุหลงกลจึงให้คนทำตาม
ฝ่ายเชียงเมี่ยงก็ให้คนไปตัดสายว่าว   เสียงนั้นก็หายไป   จากนั้นเชียงเมี่ยงก็ให้สัญญาณ
ให้กองทัพของไทยเข้าตีเวียงจันทน์   เจ้าอนุให้คนไปตีกลองเพื่อให้พระยานาคมาช่วย   แต่กลองก็ตีไม่ดัง
เพราะสิ้นลิ้นไปแล้ว   ประกอบกับพระยานาคก็ถูกอุดรู   พระยานาคจึงไม่ได้ขึ้นมาช่วยทำให้เวียงจันทน์ต้องแพ้แก่ไทย
เจ้าอนุนั้นถูกฆ่าตาย   แล้วเวียงจันทน์ก็ตกเป็นเมืองขึ้นของไทย
audru.jpg (7087 bytes)

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วันลอยกระทง


ลอยกระทง



           จังหวัดสุโขทัย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องประเพณีลอยกระทง ด้วยความเป็นจังหวัดต้นกำเนิดของประเพณีนี้ โดยการจัดงาน ลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ ที่ จังหวัดสุโขทัยถูกฟื้นฟูกลับมาอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ.2520 ซึ่งจำลองบรรยากาศงานมาจากงานลอยกระทงสมัยกรุงสุโขทัย และหลังจากนั้นก็มีการจัดงานลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟขึ้นที่จังหวัดสุโขทัย ทุก ๆ ปี มีทั้งการจัดขบวนแห่โคมชักโคมแขวน การเล่นพลุตะไล และไฟพะเนียง